.
ตะกร้า [0]
วันที่สร้างเว็บ :20/5/2013
ปรับปรุงเว็บครั้งล่าสุดเมื่อ :13/2/2015
จำนวนคนเข้าชมเว็บนี้ :474971
หตุผลที่รักหมามากกว่ารักคน!
บทความ ณ. วันที่ : 13/10/2013        จำนวนคนเข้าชมเว็บ : 289 ครั้ง   

Georgia Regents University และ Cape Fear Community College โพลได้ทำการสอบถามคนอเมริกันกว่า 500 คนว่า หากมีรถบัสเบรกแตกกำลังพุ่งเข้าชนระหว่างสุนัขที่ตัวเองเป็นเจ้าของ กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ตัวเองไม่รู้จัก เจ้าของสุนัขจะเลือกช่วยใคร?

จะช่วยคนต่างชาติที่ไม่รู้จัก หรือจะช่วยสุนัขแสนรักของตัว โดยให้เลือกรักษาชีวิตได้เพียง 1 ชีวิตเท่านั้น

ผลการสำรวจออกมาน่าตกตะลึงไม่น้อย เพราะจำนวนคนถึง 40 เปอร์เซ็นต์เลือกช่วยสุนัขของตัวเอง

โดยในจำนวนนั้น กว่าครึ่งให้เหตุผลสั้นๆ แต่มีความหมายว่า "I love my pet" หรือฉันรักสัตว์เลี้ยงของฉัน

ส่วนอีก 25 เปอร์เซ็นต์บอกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติควรจะฉลาดพอที่จะเอาชีวิตรอดได้

ผู้คนสมัยนี้ให้ความรักกับสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงเหมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว ไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงไว้ดูเล่น

จากการทำโพลสำรวจคนในอังกฤษ 2,000 คน ถึงความรักที่มีต่อสุนัขโดยเว็บไซต์ Ancestry.co.uk ซึ่งเป็นเว็บไซต์สืบสาวต้นตระกูลที่มีฐานข้อมูลใหญ่ที่สุดในโลก พบว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ของคนเลี้ยงมีความรู้สึกว่าสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกของครอบครัว 33 เปอร์เซ็นต์ บอกว่ารักสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงยิ่งกว่าญาติพี่น้องแท้ ๆ 9 เปอร์เซ็นต์ จะทำพินัยกรรมยกเงินหรือทรัพย์สินจำนวนหนึ่งให้กับสุนัข

ถึงแม้สุนัขจะพูดจาสื่อสารกับเราไม่ได้ แต่จากการศึกษาของ Goldsmiths University ประเทศอังกฤษ พบว่าสุนัขสามารถสัมผัสถึงอารมณ์เศร้าของมนุษย์ได้ และวิธีปลอบใจเจ้าของให้คลายเศร้าของสุนัขก็คือการเข้ามาคลอเคลีย เข้ามาเลียเพื่อปลอบใจให้ความอบอุ่น

คณะผู้ศึกษาได้นำสุนัขเลี้ยงจำนวน 18 ตัว หลากหลายสายพันธุ์ในวัยต่างๆ กันมาทดสอบ เพื่อดูพฤติกรรมเวลาเห็นเจ้าของสุนัขและคนแปลกหน้าในกิริยาต่างๆ 3 รูปแบบ คือ พูดคุยตามปกติ ส่งเสียงในลำคอ และสุดท้ายส่งเสียงร้องไห้

ผลที่ได้น่าสนใจอย่างมาก... เวลาสุนัขเห็นเจ้าของหรือคนแปลกหน้าร้องไห้ จะมีสุนัขเดินเข้ามาหาจำนวนมากที่สุด เข้ามาเคล้าคลอเหมือนเป็นการปลอบใจ โดยไม่คำนึงว่าคนที่ร้องไห้จะเป็นเจ้าของหรือไม่

คณะผู้ศึกษาวิเคราะห์ว่าการที่สุนัขแสดงท่าทางเห็นอกเห็นใจคนที่มีอารมณ์ เศร้าเป็นเพราะสุนัขมีความใกล้ชิดกับคนมานานหลายพันปี ทำให้มีความผูกพันกับมนุษย์โดยสัญชาตญาณ

ด้วยความที่คนสมัยนี้จำนวนไม่น้อยรักสุนัข รักสัตว์เลี้ยงยิ่งกว่าสมาชิกในครอบครัว ทำให้มีสินค้าเพื่อตอบสนองบรรดาเจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ต่างไปจากสินค้าเพื่อ บริการคน เรียกว่าคนมีสินค้าฟุ่มเฟือยอะไร สุนัขก็มีด้วยเหมือนกัน เช่น ร้านเสริมสวย สปา ร้านเสื้อผ้า โรงเรียนฝึกมารยาท โรงแรม ตลอดจนมีทนายความที่ปรึกษาเพื่อทำพินัยกรรมยกมรดกสำหรับสุนัขหรือสัตว์ เลี้ยงโดยเฉพาะ

จากเดิมที่เคยเห็นเป็นเรื่องขบขันแปลกประหลาดที่พบข่าวเจ้าของยกสมบัติ ให้สุนัข แมวหรือสัตว์เลี้ยงแทนที่จะเป็นญาติพี่น้อง ตอนนี้คนทั่วไปเริ่มเข้าใจแล้วว่าสัตว์เลี้ยงสมควรได้รับผลประโยชน์ตอบแทน จากความรัก ความซื่อสัตย์ที่มีให้กับผู้เป็นเจ้าของชนิดที่บางทีหาไม่ได้จากคนที่เป็น ญาติพี่น้อง!

ดังนั้น จึงมีการทำพินัยกรรมให้สัตว์เลี้ยงเป็นเรื่องเป็นราวเพื่อความสบายใจของเจ้า ของว่าเมื่อตนเสียชีวิตไปแล้ว สัตว์เลี้ยงของตนจะมีคนดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ไม่ถูกทอดทิ้งให้ตกระกำลำบาก

รายละเอียดหลักๆ ของพินัยกรรมสัตว์เลี้ยงนั้นคือจะมอบหมายให้มีผู้จัดการมรดกคอยดูแลเรื่อง อาหาร ของเล่น การตัดขน ค่ารักษาพยาบาลจนกว่าสัตว์เลี้ยงจะตาย และหลังจากสัตว์เลี้ยงตายจากไปแล้ว จะยกเงินมรดกที่เหลือให้ใครต่อไป ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะยกให้กับผู้ดูแลสัตว์เลี้ยง

และเพื่อให้เกิดความรัดกุมปกป้องสัตว์เลี้ยงให้มีชีวิตยืนยาวจนสิ้น อายุขัยตามธรรมชาติหรือตายเพราะโรคภัยไข้เจ็บ พินัยกรรมก็จะระบุให้มีการชันสูตรศพสัตว์เลี้ยงว่าตายโดยธรรมชาติหรือไม่ หากพบว่าถูกวางยาพิษตายหรือถูกฆ่า เงินมรดกที่เหลืออาจยกให้การกุศลแทน

ถามว่าทำไม คนถึงรักสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงมากกว่าญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูง นักจิตวิทยาให้คำตอบว่าสุนัขมีคุณสมบัติของความเป็นเพื่อนรู้ใจที่คนต้องการ ซึ่งหายากในหมู่มนุษย์ด้วยกัน

สุนัขไม่เคยโกหก ไม่ทรยศหักหลัง ดุด่าว่ากล่าวอย่างไรก็ไม่เคยเถียง เมื่อกลับมาถึงบ้าน สุนัขจะตื่นเต้นดีใจที่ได้เจอหน้าเราทุกครั้งเหมือนจากกันไปนานแสนนานทั้ง ที่เพิ่งจากกันเมื่อเช้า

ยามมีเรื่องเศร้าโศกเสียใจ พูดระบายออกมา สุนัขก็จะเฝ้ามองสบตา พร้อมรับฟังเสมอ และไม่เคยเอาเรื่องไปนินทากับคนอื่นต่อ!