การขายของ Online นั้น หลายๆคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องที่ง่ายมาก แค่ถ่ายรูป แล้ว Post บน  web ก็สามารถขายได้แล้ว  ซึ่งความจริงแล้วจะมีรายละเอียดต่างๆมากกว่านั้นนะครับ เรามาลองดูกันว่ารอบๆตัวของเราพร้อมแค่ไหนสำหรับการขายของ Online กันนะครับ   โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มได้ดังนี้

หน้าร้าน
         เปรียบได้กับเราสร้างร้านค้าให้คนเข้ามาซื้อของร้านเรา ในการสร้างร้านขอแบ่งออกเป็น 3 แบบง่ายๆ และเปรียบเทียบเพื่อความเข้าใจดังนี้ครับ  ก่อนอื่นให้จินตนาการสำหรับร้านเราว่าจะเป็นแบบไหน

1.    สร้างร้านจาก พื้นที่ดินของเราเลย จ้างผู้รับเหมามาก่อสร้างตึกให้ อยากได้แบบไหนก็บอกผู้รับเหมาไปเลย แบบนี้ยากสุดและแพงที่สุดครับ ไม่แนะนำ
2.    สร้างร้านจาก ไปเช่าล็อคที่เจ้าของตลาดทำไว้ให้แล้ว แค่มีของ ย้ายเข้าไป ตกแต่งร้านอีกเล็กน้อย เช่นป้ายร้าน ทาสีใหม่หรือจะไม่ทำอะไรก็เปิดได้เลย แน่นอนแบบนี้จะสะดวกรวดเร็ว มีเครื่องมือต่างๆคอยช่วย LandForKids ใช้แบบนี้อยู่ครับ   โดยทั่วไปจะมีค่าใช้จ่ายเป็นรายปีครับ ทางเราแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นใหม่ใช้แบบนี้นะครับ ซึ่งบางที่เจ้าของตลาดใจดีถ้าขายของไม่กี่ชิ้น สามารถขายฟรีก่อนจะตัดสินใจเช่า ซึ่งนับว่าแฟร์มากๆเลยครับ
3.    สร้างร้านจากพื้นที่สาธารณะ แบบนี้ค่าใช้ใจน้อย แต่ผู้สร้างต้องมีความรู้เป็นอย่างมาก มีเครื่องมือใช้น้อยมากๆ ทำเองเกือบทั้งหมด ทาง LandForKids ไม่แนะนำครับ

       จากทั้ง 3 ข้อที่ผ่านมาบางท่านอ่านแล้วอาจนึกว่าฉันจะเปิดร้าน Online นะ ไม่ใช่เปิดร้านจริง  แหะๆ เป็นแค่เปรียบเทียบการสร้างร้านให้ใกล้เคียงของจริงครับจะได้มองภาพได้ออก โดยการเปิดร้าน online แบ่งเป็น 3 แบบดังนี้ครับ

1.    จ้างบริษัทรับทำ Web ขายของให้เลย ซึ่งแบบนี้ค่าใช้จ่ายสูงสุดครับ และผู้คุมงานต้องมีความรู้ในระดับหนึ่ง ทาง LandForKids ไม่แนะนำครับ 
2.    เช่าพื้นที่จากผู้ให้บริการร้านค้าสำเร็จรูป ทาง LandForKids ใช้แบบนี้อยู่ครับ ลอง Search จาก Google โดยใช้คำว่า “ร้านขายของonline” จะเห็นว่าเยอะมากๆ และบางที่จะให้ทดลองใช้ฟรีก่อนนะครับ  สำหรับการเลือกผู้ให้บริการไม่ขออธิบายในบทนี้นะครับ
3.    สร้าง WebSite เองจาก พื้นที่ฟรีเช่น wordpress แบบนี้ก็ไม่แนะนำถ้าไม่มีความรู้ด้าน IT ครับ 
อีกส่วนหนึ่งที่ไม่ได้กล่าวถึงคือการขายของโดยการ Post บน Web board ตามผู้ให้บริการเช่น Pantip market หรือ Talad กับการขายบน Facebook ครับ (จะแยกเป็นอีก 1 ตอนเลยครับสำหรับ Fackbook) และการขายบน E-bay ครับ 

    ตรวจสอบดูครับว่าเราจะเลือกร้านแบบไหนครับ สำหรับ FB อดใจรอหน่อยนะครับ 

ชื่อร้าน
    เมื่อมีได้ร้านแล้วก็ต้องมีชื่อร้านใช่ไหมครับ เพื่อคุณลูกค้าจะได้เรียกได้ถูกต้องเข้ามาได้ถูกทาง โดยส่วนใหญ่ก็มักจะตั้งชื่อง่ายๆ ให้จำได้ง่ายๆ ครับ ถ้าจัดทำ webสำเร็จรูป มักจะได้ชื่อร้านยาวมากๆ ขอยกตัวอย่าง LandForKids เช่นhttp://www.sabuyjaishop.com/shop/LandForKids   เป็นไงครับยาวไหม จำชื่อกันได้ไหมครับ  ซึ่งเราสามารถทำให้สั้นลงได้ ตัวอย่าง เช่น  www.landforkids.com  ได้ครับ โดยค่าใช้จ่ายประมาณปีละไม่ถึง 400 บาทครับ สำหรับวิธีการนั้นยังไม่ขออธิบายนะครับ เดี๋ยวงงกันก่อน ให้รู้ว่าสามารถทำชื่อร้านให้จำได้ง่ายๆได้ก่อนครับ

    ตรวจสอบดูว่าเราต้องการชื่อร้านที่จดจำง่ายไหมครับ และเราสามารถทำเองได้เลยไหม
    
การติดต่อสื่อสาร
    นอกจากมีหน้าร้านไว้ติดต่อกับลูกค้าแล้วเครื่องมืออื่นๆก็สำคัญนะครับ เช่น Email , โทรศัพท์ สำหรับ Smart Phone ก็มี line,what App ไว้ช่วยในการติดต่อและสามารถดูหน้า web เราหรือตอบคำถามลูกค้าได้เลยครับ

        E-Mail ใช้ของฟรีเลยครับไม่ว่า Hotmail ,Gmail ,Yahoo ควรตั้งชื่อให้สื่อกับร้านครับจะได้จำได้ง่ายๆ
       โทรศัพท์มือถือ แนะนำให้เปิดอีกเบอร์สำหรับร้านเลยครับจะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นครับ  ไม่งั้นจะวุ่นวายกันพอสมควร ซึ่งปัจจุบันการเปิดเบอร์ใหม่ค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้มากแล้วครับ ที่สำคัญควรเป็นเจ้าที่ใช้ได้ทุกพื้นที่นะครับ เผื่อบางทีเราต้องไปทำธุระต่างจังหวัดหรือไปเที่ยวจะได้ติดต่อได้ครับ 
       Smart Phone/Pad สำหรับ Smart Phone/Pad นั้นไม่มีก็ได้ครับ แต่มีก็ดีครับสะดวกมากๆ เวลาลูกค้าส่งmail มาหรือจะคุยผ่าน What App หรือ Line ก็ทำได้สะดวก สามารถดูหน้า web ของตนเอง ตอบคำถามผ่านทาง Web Broad ได้ 
    
    ตรวจสอบดูครับว่าเรามืออุปกรณ์สื่อสารแบบไหน พร้อมแค่ไหนครับเพราะถ้าซื้อใหม่คือต้นทุนที่เพิ่มขี้นครับ

อุปกรณ์การขนส่ง
    สำหรับอุปกรณ์นั้นเป็นของจำพวก กล่อง เชือกรัด  เทปใส่  กันกระแทก กระดาษ ดูว่าเป็นของยิบย่อยไม่กี่สตางค์แต่นี้คือต้นทุนของเราครับ ถ้าคิดจะค้าขายต้องลดต้นทุนพวกนี้ให้ได้ครับ เราสามารถหาแหล่งได้จาก Internet ครับแต่อาจต้องซื้อเป็นจำนวนมากสักหน่อย  โดยเฉพาะกล่องยกตัวอย่างกล่องละ 9 บาท ถ้า 100 กล่องก็ 900 บาท แต่ถ้าหาได้กล่องละ 4.5 บาท สามารถลดต้นทุนได้ 450 บาทเก็บไว้เป็นค่านมลูกได้สบายเลยครับ  

    ตรวจสอบดูว่าเราสามารถหาแหล่ง หรือใกล้แหล่งขายอุปกรณ์สำหรับขนส่งเหล่านี้หรือไม่ครับ 

การขนส่ง
    ค่าขนส่งเป็นต้นทุนที่สำคัญของการขายของ Online ครับ โดยผู้ขายของ online โดยส่วนใหญ่จะส่งของผ่านไปรณีย์ไทย ซึ่งอาจมีปัญหาบ้าง LandForKids แนะนำนอกจากไปรณีย์ไทยแล้วยังมีขนส่งเอกชนที่มีราคาต่ำกว่าถึงเร็วกว่าครับ  สำหรับเรื่องการขนส่งจะแยกไว้เป็นอีกตอนนะครับ

    ตรวจสอบว่าท่านอยู่ใกล้ไปรณีย์หรือบริษัทขนส่งเอกชนหรือไม่นะครับ

การชำระเงินผ่านธนาคาร
    สำหรับผู้เริ่มต้น การชำระเงินส่วนใหญ่จะชำระโดยการโอนผ่านธนาคาร โดยใช้กฎที่ว่า เงินมาของไป  ไม่ควรส่งของก่อนที่จะได้รับเงินนะครับ
    ปัญหาสำคัญคือจะรู้ได้อย่างไรว่าโอนเงินมาจริง ปัจจุบันบางธนาคารสามารถแจ้งเราผ่าน SMS หรือสามารถ Online เข้าไปดูบัญชีเลยว่ามีใครโอนเงินเมื่อไหร่เท่าไหร่ ครับ
    ดังนั้นสิ่งที่พ่อค้าแม่ค้าต้องทำเลยคือการเปิดบัญชี Online ซึ่งบางธนาคารยากและง่าย แตกต่างกันไป บางที่ก็ดำเนินการได้ไวมากๆ บางที่เดือนแล้วยังไม่ได้เลย ครับ
    คำถามส่วนใหญ่ที่ได้รับคือเปิดกี่ธนาคารดี  ตามหลักยิ่งมากยิ่งดีเพราะจะไม่มีค่าโอนภายในธนาคารเดียวกันทำให้ลูกค้าสะดวกในการโอน และตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้นครับ

    ตรวจสอบว่าธนาคารอยู่ใกล้สามารถดำเนินการได้โดยง่าย และสามารถการดูข้อมูลบัญชีแบบ Online หรือไม่ถ้าจะให้วิ่งไป up book ทุกวันนี้คงไม่ไหวนะครับ

กล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์ประกอบฉาก
    สำหรับผู้ที่รับสินค้ามาขาย แล้วต้องถ่ายรูปเองนั้น กล้องถ่ายรูปเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญ การขายสินค้าบางประเภท รูปมีความสำคัญเป็นอย่างมากยกตัวอย่าง LandForkids จะมีบางรูปที่ทางโรงงานไม่ได้ให้มาหรือไม่มีเนื่องจากคนละสี ดังนั้น จำเป็นจะต้องถ่ายเอง ซึ่งต้องใช้ความสามารถพอสมควร ลองขึ้นไปดูรูปของ LandForKids ครับ ว่ารูปจากเจ้าของสิ้นค้า กับที่ถ่ายเองแต่งต่างกันแค่ไหน  ขอแนะนำสำหรับมือใหม่คือหาสินค้าที่มีรูปอยู่แล้วจากผู้ผลิตไม่ต้องมาถ่ายรูปเอง เพราะการถ่ายรูปใช้เวลาเพราะต้องมาตกแต่งรูปอีกนะครับ

    ตรวจสอบว่าเรามีกล้องอยู่แล้วหรือไม่ หรือสินค้าที่จะขายมีรูปอยู่แล้วหรือไม่

สรุปสำหรับการเตรียมความพร้อมให้ตรวจสอบดังนี้ครับ 
1.    ตรวจสอบดูครับว่าเราจะเลือกร้านแบบไหนครับ สำหรับ FB อดใจรอหน่อยนะครับ
2.    ตรวจสอบดูว่าเราต้องการชื่อร้านที่จดจำง่ายไหมครับ และเราสามารถทำเองได้เลยไหม
3.    ตรวจสอบดูครับว่าเรามีเครื่องมืออุปกรณ์สื่อสารแบบไหน พร้อมแค่ไหนครับเพราะถ้าซื้อใหม่คือต้นทุนที่เพิ่มขี้นครับ
4.    ตรวจสอบดูว่าเราสามารถหาแหล่ง หรือใกล้แหล่งขายอุปกรณ์สำหรับขนส่งเหล่านี้หรือไม่ครับ
5.    ตรวจสอบว่าท่านอยู่ใกล้ไปรณีย์หรือบริษัทขนส่งเอกชนหรือไม่นะครับ
6.    ตรวจสอบว่าธนาคารอยู่ใกล้สามารถดำเนินการได้โดยง่าย และสามารถการดูข้อมูลบัญชีแบบ Online เพราะถ้าจะให้วิ่งไป up book ทุกวันนี้คงไม่ไหวนะครับ
7.    ตรวจสอบว่าเรามีกล้องอยู่แล้วหรือไม่ หรือสินค้าที่จะขายมีรูปอยู่แล้วหรือไม่

ตอบคำถามเหล่านี้แล้วมา Share กันก็ได้นะครับ สำหรับปัญหาและคำถามต่างๆ Post ลงกระทู้ได้เลยครับ สำหรับตอนหน้าพบกับ ขายอะไรบนโลก Onlineดีน้า?