การมีเสื้อเบลสเซอร์ไว้ในครอบครองถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะหยิบมาสวมได้ตลอด เข้าได้กับทุกรูปร่างและเสื้อผ้าแทบทุกชุด ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อเบลสเซอร์ที่ตัดเย็บดีๆ ขนาดพอดีตัว ไม่คับเกินไปและไม่หลวมโคร่ง         การสวมเบลสเซอร์หลวมๆ ให้ลุควินเทจสุดชิคสำหรับบางคน แต่ถ้าแมทช์เสื้อผ้าไม่เก่งจริงอาจทำให้ดูเหมือนแอบเอาเสื้อสูทของคุณพ่อมาสวม

ส่วนการเลือกสีก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยก่อนเลือกซื้อต้องคำนึงถึงว่าจะสวมเบลสเซอร์กับเสื้อผ้าแบบไหน และต้องการให้ลุคออกมาเป็นอย่างไร อย่างเบลสเซอร์สีดำจะเข้าได้กับเสื้อผ้าทุกสี หากสวมกับเสื้อผ้าสีดำก็จะดูคลาสสิค  ในขณะเดียวกันเบลสเซอร์สีสว่างอย่างขาวหรือครีมควรสวมทับเสื้อโทนสว่าง หากเป็นเบลสเซอร์สีสดจะทำให้ดูสดใส    สบายตา และผู้สวมดูเป็นคนที่มั่นใจในตัวเอง 

สำหรับการเลือกเนื้อผ้า ถ้าเป็นสาวเปรี้ยว แต่งตัวจัด เนื้อผ้ามันๆ หรือมีลูกเล่นอย่างลายแปลกๆ คือ ตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าชอบแต่งตัวเรียบเก๋ ควรเลือกแบบเรียบ ตัดเย็บดีๆ และไม่มีรายละเอียดที่ดูรกรุงรัง ที่สำคัญต้องเป็นสีที่เข้าได้กับเสื้อผ้าที่มี เพื่อจะได้สวมได้กับเสื้อผ้าทุกชุด และทำให้ใส่ได้นานโดยไม่เบื่อซะก่อน

สิ่งสำคัญในการสวมเบลสเซอร์ คือการบาลานซ์ความแข็งแบบทอมบอยของเสื้อเบลสเซอร์ กับความนุ่มนวลของชุด เช่น สวมทับยีนส์เพื่อเพิ่มความลำลองให้ได้ลุคแคชชวลและเพิ่มความเป็นเฟมินีนโดย สวมรองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าส้นเตี้ยสวยๆ หรือสวมกับกางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้นน่ารักๆ

ถ้าอยากให้ดูนุ่มนวลแบบผู้หญิง ก็เลือกกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่กับเสื้อที่มีดีเทลหวานๆ แบบผู้หญิงและสวมทับด้วยเบลสเซอร์เพื่อเป็นการบาลานซ์ แต่สำหรับวันสบายๆ ที่ไม่อยากดูเซอร์เกินไป เพียงแค่สวมเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ทรงสลิมฟิตสวยๆ และทับด้วยเบลสเซอร์ก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้ลุคสบายๆ ได้

การสวมเบลสเซอร์กับเดรสเป็นอีกหนึ่งวิธี แมทช์แสนง่าย แต่ไม่ควรเลือกเดรสที่มีสีหรือเนื้อผ้าเหมือนกันเบลสเซอร์ เพราะจะดูกลมกลืนกันจนเกินไป ขณะเดียวกันก็ไม่ควรเลือกสวมเบลสเซอร์ สีจัดเห็นได้ในระยะร้อยเมตร กับเดรสผ้ามันระยับที่ดูสะดุดตา แต่ควรตัดสินใจเลือกให้อย่างใดอย่างหนึ่งเด่นเพียงชิ้นเดียวจะดูดีกว่า

ที่มา นสพ.เดลินิวส์